หากคุณมีนัดสัมภาษณ์งานเร็ว ๆ นี้ แน่ใจหรือว่างานนี้จะเป็นของคุณ คุณอาจคิดว่าความสามารถและใบปริญญาบวกกับความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองน่าจะพอ อย่าเพิ่งด่วนสรุป! การสัมภาษณ์งานอาศัยทักษะ และ การเตรียมตัวมากกว่าที่คิด นัดสัมภาษณ์งานคือช่วงเวลา 15-60 นาที ของการแนะนำตัวเองต่อคนแปลกหน้าซึ่งเดิมพันด้วยความสุข และความก้าวหน้าของคุณในอนาคต คุณจะได้งานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้ ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่คุณจะนำเสนอตัวเองอย่างไร ถึงจะโดดเด่นเหนือผู้สมัครงานคนอื่น ๆ และทำให้ผู้สัมภาษณ์งานมั่นในว่าคุณน่าจะเป็นผู้ร่วมงานที่ดี แน่นอนว่าคุณต้องแสดงตัวในด้านที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณต้องการนั้นมากที่สุด ส่วนคำแนะนำที่บอกต่อ ๆ กันมาว่าให้คุณเป็นตัวของตัวเองที่สุดนั้น ใช้ไม่ได้กับนัดสัมภาษณ์งาน ดังนั้น มาดูวิธีนำเสนอตัวตน ในขณะสัมภาษณ์งานให้ดีที่สุด ว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้างกันเลยค่ะ
1. ประสบการณ์น้อย
ควรบอกว่าคุณมีประสบการณ์ที่จำเป็นต่องานนี้โดยไม่ต้องผ่านงานประจำมาก่อนเช่น คุณเคยผ่านงานพิเศษสมัยเรียน เคยร่วมในกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหรือองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรต่าง ๆ และถึงแม้ว่าประสบการณ์นั้นจะไม่สัมพันธ์กับงาน ที่ต้องการนี้เลยก็ตาม คุณก็ได้เรียนรู้ทักษะบางอย่างที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคตเช่นทักษะการทำงานเป็นทีม หรือทักษะการตัดสินใจที่เด็ดขาดฉับไว
2. เรียนอย่างเดียว
ในกรณีที่คุณเอาแต่เรียนอย่างเดียว ไม่เคยร่วมกิจกรรมใด ๆ เลย คุณก็มีหนทางเดียวที่จะแก้จุดนี้ ด้วยการแสดงให้เห็นว่าการเรียนก็เป็นประสบการณ์การทำงานอย่างหนึ่ง เช่น คุณมีประสบการณ์ที่ต้องทำงานส่งให้ทันกำหนดเส้นตาย หรือคุณผ่านการทำรายงานชิ้นสำคัญ ๆ มาแล้วหลายชิ้น คุณผ่านการนำเสนอรายงานต่อหน้ากลุ่มคนอย่างน้อยก็หนึ่งครั้ง จึงมีทักษะในการสื่อสารกับคนหมู่มาก และที่สำคัญคุณต้องพยายามให้ผู้ประกอบการเห็นว่าคุณอยากเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ จากงานที่ต้องการนี้มากแค่ไหน
3. ผลการเรียนต่ำ
แทนที่จะสารภาพว่าคุณอ่อนวิชานั้นวิชานี้หรือยืนยันว่า GPA ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หรือแก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ คุณควรอย่างยิ่งที่จะให้เหตุผลว่าคุณต้องทำงานหาค่าขนม และค่าใช้จ่ายอุปกรณ์การเรียนเพื่อไม่ต้องรบกวนผู้ปกครอง ถึงเกรดของคุณไม่สูงแต่คุณก็มีประสบการณ์จากชีวิตจริงอย่างโชกโชน หรือเน้นย้ำว่าความสำเร็จของการศึกษาและในการทำงานต้องการสิ่งอื่นมากกว่า แค่เกรดสูงอย่างเดียว คุณมีประสบการณ์ในการทำกิจกรรมอื่น ๆ มาชดเชย หรือชี้ให้เห็นว่าในวิชาเอกของคุณนั้นคุณได้คะแนนดีแค่ไหน
4. ร่วมกิจกรรมน้อย
ถ้าถูกถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยร่วมกิจกรรมในมหาวิทยาลัย คุณก็ควรบอกว่าต้องเรียนหนังสือหนักมาก และยังทำงานพิเศษไปด้วย จากนั้นก็นำเสนอไปถึงประสบการณ์การทำงานต่าง ๆ ของคุณระหว่างเรียน
5. อายุน้อยเกินไป
หากคุณสมัครงานในตำแหน่งสำคัญแต่ถูกติงว่างอายุยังน้อยเกินไป คุณควรอธิบายถึงประโยชน์ ของการมีอายุน้อยว่า
6. เปลี่ยนจุดด้อยเป็นโอกาส
คำถามทั่วไปในการสัมภาษณ์งานย่อมไม่พ้นเกี่ยวกับประวัติการทำงานและการศึกษา จริง ๆ แล้วสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์งานต้องการรู้ คือคุณมีประสบการณ์ในงานที่กำลังพิจารณาอยู่หรือเปล่านั่นเอง ในกรณีที่คุณผ่านการทำงานมาแล้ว ก็เพียงแค่อธิบายว่าประสบการณ์หรือความสำเร็จที่เคยมีนั้น คุณสามารถนำมาปรับใช้กับงานใหม่ได้อย่างไร แต่ถ้าคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ล่ะ สิ่งที่ควรทำคือชักจูง ให้ผู้สัมภาษณ์งานเชื่อว่าคุณมีความมุ่งมั่น พร้อมทำงานหนักและเรียนรู้เร็ว คุณอาจมีจุดอ่อนหลายด้านให้ผู้สัมภาษณ์งานจับผิด วิธีแก้ไขคือรู้จักปรับเปลี่ยนจุดด้อยเหล่านั้นเป็นโอกาส
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Nestle ให้ความสำคัญกับอะไร ระหว่างวุฒิการศึกษาหรือประสบการณ์