ถ้าเปรียบการสัมภาษณ์งานเป็นการเสนอขายสินค้าอย่างหนึ่ง การขายที่ดีย่อมต้องไม่กดดันผู้ซื้อเกินไป จนต้องยอมซื้อสินค้าในที่สุด แต่ต้องพยายามทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ซื้อ และอธิบายให้เห็นถึงคุณสมบัติของสินค้าที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการ การสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน คุณต้องทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ประกอบการ ว่าเค้าต้องการคนทำงานอย่างไร ต้องการให้ไปช่วยพัฒนาองค์กรอย่างไรบ้าง คุณจึงนำเสนอคุณสมบัติของตัวคุณเองให้ตอบโจทย์กับความต้องการขององค์กร ถ้าคุณไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี คุณก็ไม่สามารถทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงคุณสมบัติและข้อดีที่คุณมีได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า คุณไม่สามารถจูงใจให้เขา “ซื้อ” สินค้าที่คุณนำเสนอได้
ผู้สมัครงานจำนวนมากไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการพรีเซนต์ตัวเองมากพอ ถึงแม้ว่าการ เขียนเรซูเม่ จะดูน่าสนใจ และแม้ว่าในวันสัมภาษณ์งานจะแต่งกายดูดีน่าประทับใจ แต่ถ้าไม่สามารถโน้มน้าวผู้สัมภาษณ์งานให้เชื่อว่าคุณคือคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นมากที่สุดแล้วล่ะก็ คุณก็ไม่สามารถปิดการขายได้
ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณที่ต้องเตรียม ได้แก่ ประวัติการทำงาน ทั้งงานเต็มเวลา งานล่วงเวลา และงานที่ทำในช่วงปิดเทอม ประวัติการทำงานอาสาสมัครหลังเลิกงานหรือในเวลาว่าง ประวัติการศึกษา ประวัติการทำกิจกรรม ประวัติการรับรางวัลต่าง ๆ ประวัติการเกณฑ์ทหารในกรณีที่คุณเป็นผู้ชาย ความสามารถทางภาษา และความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์
เมื่อคุณเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองพร้อมแล้ว สิ่งต่อไปที่ผู้สัมภาษณ์งานต้องการทราบก็คือ ทัศนคติของคุณ โดยคุณต้องเตรียมตัวสำหรับการตอบคำถามต่อไปนี้ด้วย
คำตอบของคำถามเหล่านี้จะสามารถบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้เป็นอย่างดี ยิ่งคุณรู้จักตัวเองดีเท่าไร คุณจะสามารถนำเสนอจุดเด่นที่ตรงกับความต้องการของผู้สัมภาษณ์ได้มากเท่านั้น ดังนั้น ทำความรู้จักกับตัวเองให้มาก แล้วเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่ตอบยากเอาไว้ให้พร้อม ลองคิดถึงคำตอบแล้วมองย้อนกลับว่า ถ้าคุณเป็นผู้สัมภาษณ์คุณจะรู้สึกอย่างไรกับคำตอบนั้น เขาจะมองว่าคุณเป็นคนเช่นไร ใช่คนที่เขาต้องการหรือไม่ เพื่อที่คุณจะสามารถพรีเซนต์ตัวเองได้ตรงใจนายจ้างมากที่สุดนั่นเอง
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คำถามที่จะทำให้คุณโดดเด่นในการสัมภาษณ์งาน
“จงอธิบายจุดเด่น-จุดด้อยของคุณ” ตอบอย่างไรให้โดนใจผู้สัมภาษณ์