มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้อาชีพทันตแพทย์และพยาบาลเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง หลังการเปิดเสรีแรงงานในอาเซียน ขณะที่ประเมินว่า ธุรกิจสปา ขนาดเล็ก จะปิดบริการมากกว่า 1 หมื่นแห่ง หลังมีการกำหนดมาตรฐานกลางของอาเซียน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการวิเคราะห์เรื่องศักยภาพการแข่งขันของการเปิดเสรีแรงงานวิชาชีพไทยภายใต้ AEC ว่า ประเทศไทยยังไม่มีการเตรียมการเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมถึงภาคแรงงานยังไม่ทราบถึงผลกระทบและการเตรียมตัวในการเปิดเสรี อีกทั้งการเปิดเสรีแรงงานจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและบริการของไทยเพราะ ปัจจุบันยังขาดแรงงานที่มีฝีมือและยังมีความเสียเปรียบด้านภาษา และจากการทำการศึกษาในกลุ่มบริการวิชาชีพใน 6 สาขา ได้แก่ งานทันตแพทย์ งานแพทย์ งานพยาบาล งานบัญชี งานวิศวกรรม และ งานสถาปัตยกรรม พบว่า กลุ่มวิชาชีพทันตแพทย์ พยาบาลและ วิศวกร ส่วนใหญ่ไม่เห็นประโยชน์ของ การเปิดเสรีอาเซียน เนื่องจากจะมีแรงงานวิชาชีพต่างชาติเข้ามา หางาน ในไทยมากขึ้น ทั้งนี้กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ทันตแพทย์และพยาบาล เนื่องจากจะมีทันตแพทย์โอนสัญชาติจากยุโรปเป็นสิงคโปร์ และจะมีพยาบาลจากฟิลิปปินส์เข้ามาใช้สิทธิ์เข้ามาประกอบวิชาชีพจำนวนมาก ซึ่งไทยยังเสียเปรียบด้านภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ถึงแม้แต่ละวิชาชีพของไทยอยู่ในระดับกลุ่มที่มีศักยภาพในอาเซียน
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ภาครัฐควรเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์และผลกระทบของแต่ละวิชาชีพ ก่อนที่จะมีการตกลงเปิดเสรีแรงงานอาเซียน รวมถึงเพิ่มเรื่องทักษะภาษาต่างประเทศ พัฒนาแรงงานให้สอดคล้องกับภาคการผลิต ทั้งนี้ ในกลุ่มธุรกิจสปาขนาดเล็ก ที่เปิดตามตึกแถวหรือตามที่พักอาศัย อาจจะมีการปิดกิจการเป็นจำนวนมากกว่า 10,000 แห่ง หลังจากการเปิดอาเซียน เนื่องจากขณะนี้ได้มีการออกมาตรฐานสปาในอาเซียนแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีข้อบังคับและมาตรฐานของสถานที่และความปลอดภัยต่างๆ และจะมีหน่วยงานของอาเซียนเข้ามาตรวจด้วย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างรอการลงนามของกลุ่มประเทศในอาเซียน
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ