เห็นด้วยไหมคะว่า การเป็นผู้สนับสนุน หรือที่เราเรียกว่าสปอนเซอร์นั้น เป็น การทำการตลาด ที่เป็นมิตร กับกลุ่มเป้าหมาย มากกว่าการลงโฆษณา เมื่อกลุ่มเป้าหมายดูโฆษณา กลุ่มเป้าหมายจะรับรู้ว่า คุณกำลังพยายามขายสินค้าบางอย่างให้แก่เขา ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สนใจ จึงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่นแทน เพราะเหตุนี้การโฆษณาจึงกลายเป็นวิธีที่ไม่คุ้มค่าทางการตลาด ได้ผลตอบรับต่ำ แต่กลับเสียค่าใช้จ่ายสูง
ด้วยบทบาทผู้สนับสนุน ทำให้กลุ่มเป้าหมายมองสินค้าหรือ แบรนด์ นั้นด้วยความรู้สึกที่ดีกว่าการโฆษณา เมื่อคุณเป็นสปอนเซอร์ให้กับอีเวนต์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ กลุ่มเป้าหมายจะเกิดความรู้สึกที่ดีกับคุณ และยังทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความเชื่อถือในแบรนด์ของคุณด้วย ซึ่งความเชื่อถือนี้เอง จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้ม ที่จะซื้อสินค้าของคุณเพิ่มมากขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องสรรหาถ้อยคำใด ๆ มาโฆษณาสรรพคุณของสินค้าเลย
แต่ก่อนที่จะเริ่มเป็นสปอนเซอร์ นักการตลาด ต้องสำรวจตลาดก่อนว่า อะไรที่เราควรเข้าไปสนับสนุน และเราจะทราบได้อย่างไรว่าเมื่อเราให้การสนับสนุนไปแล้ว เราจะได้รับผลตอบรับที่คุ้มค่าในเรื่องของผลตอบรับนั้น ระยะสั้นอาจกลับมาในรูปของการได้เป็นที่รู้จักและถูกกล่าวถึง แล้วจึงนำไปสู่ผลตอบรับในระยะยาว นั่นคือลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าของคุณ รวมถึงแนะนำให้เพื่อน ๆ มาซื้อ ซึ่งจะทำให้คุณได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการบอกต่ออีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นหลัก 5 ข้อในการพิจารณาความเหมาะสมในการเป็นสปอนเซอร์
1. ค่าใช้จ่ายในการเป็นสปอนเซอร์ เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่จะได้รับเป็นอย่างไร และเมื่อเทียบกับการเป็นสปอนเซอร์โดยการลงทุนเท่าเดิม แต่เป็นสปอนเซอร์ให้กับอีกที่หนึ่ง อันไหนจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่ากัน
2. เลือกกลุ่มเป้าหมายให้ตรงที่สุด หากกลุ่มเป้าหมายของสินค้าหรือบริการของคุณคือคนทำงานในระดับผู้บริหาร คุณควรจะเลือกเป็นสปอนเซอร์ให้กับกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมงานเป็นเจ้าของกิจการจำนวน 100 คน มากกว่า กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมเป็นพนักงานขายจำนวน 1,000 คน หรือ นักศึกษาจบใหม่จำนวน 5,000 คน
3. จำนวนสปอนเซอร์ก็สำคัญ ก่อนจะเป็นสปอนเซอร์ให้กับใครหรือกิจกรรมใด ต้องตรวจสอบด้วยว่า กิจกรรมนั้นมีสปอนเซอร์เป็นใครบ้าง จำนวนเท่าไร และหากคุณเข้าร่วมด้วย คุณจะเป็นที่สนใจหรือไม่ การเป็นสปอนเซอร์ 1 ใน 3 ราย ย่อมดีกว่าเป็น 1 ใน 20 ราย ซึ่งจะทำให้คุณถูกกลืนหายไปในหมู่สปอนเซอร์จำนวนมาก
4. ให้สปอนเซอร์รายใหญ่ช่วยหนุน คุณควรเข้าร่วมกิจกรรมที่ประกอบด้วยสปอนเซอร์จากบริษัทชั้นนำที่เป็นที่รู้จัก มากกว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมที่มีแต่สปอนเซอร์โนเนม เนื่องจากการอยู่ในกลุ่มบริษัทใหญ่ ๆ จะช่วยทำให้บริษัทคุณดูดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย คุณคือบริษัทที่อยู่ในระดับเดียวกับบริษัทชั้นนำเหล่านั้น
5. เชื่อในกิจกรรมที่คุณสนับสนุน อย่าหลอกลวง หรือเสแสร้งทำเพื่อหวังผลประโยชน์เท่านั้น การสนับสนุนกิจกรรมเพราะตระหนักในคุณค่าของกิจกรรม จะให้คุณค่ากับคุณมากกว่ามูลค่าแบบปลอม ๆ ที่อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณในภายหลังได้
การเป็นสปอนเซอร์สามารถให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับคุณ หากคุณดำเนินการโดยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ลองพิจารณาหลัก 5 ข้อข้างต้นดูนะคะ อาจช่วยในการตัดสินใจเป็นสปอนเซอร์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ