หากคุณส่ง เรซูเม่ ไปแล้ว ไม่มี HR เรียกสัมภาษณ์งานเลยสักบริษัท ควรรีบตรวจสอบเรซูเม่ของคุณ ว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน แล้วแก้ไขมัน โดยดูว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ ให้ตัดทิ้งไป แล้วแทนที่ด้วยสิ่งที่ ผู้ประกอบการมองหาจากเรซูเม่ ของคุณแทน เริ่มด้วยการตรวจสอบดูว่าในเรซูเม่ของคุณมี 4 ข้อสำคัญต่อไปนี้แล้วหรือยัง
1. เพิ่มคุณสมบัติโดยสรุปเข้าไปด้านบนเรซูเม่แทนจุดมุ่งหมายในอาชีพเพราะการสรุปคุณสมบัติเป็นข้อ ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการจะทำให้เรซูเม่ดูน่าสนใจมากกว่าการเขียนเป้าหมายในอาชีพ ซึ่งมักจะเป็นการบอกความต้องการของผู้สมัครงานมากกว่า
2. โฟกัสที่ความสำเร็จ ไม่ใช่แค่บอกหน้าที่รับผิดชอบอีกนัยหนึ่งคือ อธิบายให้ผู้ประกอบการเห็นว่าคุณทำงานได้ดีเพียงไร ไม่ใช่แค่ทำอะไร เช่น เปลี่ยนจากเขียนว่า “managed email list” มาเป็น “increased email subscribers by 20 percent in six months” แทน
3. เลิกเขียนบรรยายร่ายยาวหากคุณบรรยายคุณสมบัติแบบร่ายยาวเป็นย่อหน้า แทนที่ผู้ประกอบการจะสนใจกลับรีบปิดไฟล์เรซูเม่ของคุณทันที เพราะมันเสียเวลาที่เขาจะอ่านเรซูเม่ยาว ๆ แบบนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการมองหาคือคนที่น่าสนใจตั้งแต่แวบแรก ดังนั้นควรจัดเรซูเม่ของคุณในรูปแบบ bullet จะสามารถจับความสนใจผู้ประกอบการได้ดีกว่า
4. ตัดประเด็นที่ไม่ช่วยเพิ่มมูลค่าออกการที่เรซูเม่ของคุณมีหลายหน้าเกินไป อาจกำลังบอกว่าคุณไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญมากหรือน้อยกว่ากัน คุณจึงไม่สามารถตัดออกได้ แต่หากคุณทำให้มันสั้นลงเหลือเพียง 2 หน้า (หากเป็นนักศึกษาจบใหม่อาจมีเพียงหน้าเดียว) คุณจะมั่นใจได้ว่า สายตาผู้ประกอบการจะกวาดมาพบกับคุณสมบัติที่คุณคัดสรรมาแล้วว่าเจ๋งสุด ๆ ที่อยากให้ผู้ประกอบการเห็นเท่านั้น
หากหางานไม่ได้ซักที ลองตรวจสอบเรซูเม่ดูอีกทีว่าดีพอที่จะดึงดูดสายตาผู้ประกอบการแล้วหรือไม่ กับคำแนะนำที่ jobsDB นำมาฝากค่ะ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
จะหางานหรือไม่หางาน แค่อัปเดตโปรไฟล์โอกาสได้งานเพิ่มขึ้นทันที