เงินทองต้องวางแผน รถต้องดาวน์ บ้านต้องผ่อน เสื้อผ้าก็ต้องซื้อ ฯลฯ รายจ่ายยาวเหยียดขนาดนี้ ถ้ามีรายได้หลายช่องทางก็คงจะดี หลายคนจึงเลือกทำอาชีพเสริมควบคู่ไปกับการทำงานประจำ เพื่อแบ่งเบาภาระรายจ่ายและเหลือเงินไว้เก็บออม นอกจากนี้หลายคนยังมีเป้าหมายที่มากกว่าเรื่องเงิน แต่เลือกทำอาชีพเสริมเพราะความชอบส่วนตัว อยากผ่อนคลายจากงานประจำ หรือบางคนอยากออกไปเจอสังคมใหม่ๆ สร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ ประกอบกับปัจจุบันมีเทรนด์อาชีพใหม่เกิดขึ้นเยอะมาก ทำให้การหารายได้เสริมไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากอย่างที่คิด อย่างไรก็ตามเมื่อตัดสินใจทำงานหลายอย่าง เท่ากับต้องแลกมาด้วยความรับผิดชอบที่มากกว่าเดิม ดังนั้น การบริหารเวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อไม่ให้เอาเวลาการทำงานมาปนกัน วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ เพื่อให้ทำงานทั้งสองอย่างได้คล่องตัว โดยไม่กระทบกับงานประจำที่ทำอยู่
1. เลือกอาชีพเสริมจากความถนัด
สำรวจตัวเองก่อนว่ามีความถนัดหรือความสามารถพิเศษอะไรบ้าง จากนั้นให้พิจารณาลักษณะงานของอาชีพเสริมว่าสอดคล้องกับงานประจำหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องของเวลาที่ต้องไม่เบียนเบียนงานประจำจนเกินไป หลักสำคัญในการเลือกอาชีพเสริมให้เหมาะสมคืองานนั้นต้อง “ส่งเสริม” ความสามารถของเรา หรือได้ใช้ทักษะที่ใกล้เคียงกับงานประจำ สมมติว่าอาชีพหลักของคุณคือ AE และขายเสื้อผ้าออนไลน์เป็นอาชีพเสริมไปด้วย แบบนี้เรียกว่าทั้งสองงานส่งเสริมกัน ได้ใช้ทักษะการสื่อสารเหมือนกัน แต่ถ้าคุณเลือกทำอาชีพเสริมที่มีลักษณะงานไม่เอื้อต่องานประจำ ก็มีแนวโน้มทำให้คุณเหนื่อยและเครียดกว่าเดิม เช่น ทำงานออฟฟิศ 9 โมง ถึง 6 โมง หลังเลิกงานยังต้องไปสอนออกกำลังกายต่ออีก 3 ชั่วโมง แบบนี้อาจจะใช้ร่างกายหนักจนเกินไป หากเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเลือกสอนในวันเสาร์หรืออาทิตย์แทน เพื่อให้สามารถบริหารเวลาต่างๆได้ลงตัวยิ่งกว่าเดิม
2. บันทึกงานที่ต้องทำด้วย Bullet Journal
เมื่อมีงานต้องรับผิดชอบหลายอย่าง จำเป็นต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอๆ ด้วยการบันทึกสิ่งที่ต้องทำ จะได้รู้ว่าเราใช้เวลาไปกับงานอะไรบ้าง งานประจำมีอะไรต้องเคลียร์ไหม และงานเสริมยังเหลืออีกกี่งาน ซึ่งเราขอแนะนำการจัดระเบียบชีวิตด้วย Bullet Journal หรือเรียกสั้นๆ ว่า BUJO คือการจดบันทึกและจัดเก็บข้อมูลลงบนหน้าสมุดเปล่าๆ ที่ไม่มีเส้น ไม่มีตารางใดๆ มากั้น แทนที่จะเขียนลงบนสมุด Journal ที่มีเส้นอะไรต่อมิอะไรตีกรอบมาแล้ว เพราะแนวคิดของ BUJO คือการจดบันทึกให้เรียบง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยที่คุณสามารถออกแบบสมุดเองได้ด้วย ซึ่งแนวคิดนี้เชื่อว่าการเขียนทำให้คนจำข้อมูลได้ง่ายกว่าการพิมพ์
วิธีการจดบันทึกแบบ BUJO
2.1 Future Log จัดระเบียบงานล่วงหน้า
สำหรับเขียนงานที่ต้องวางแผนล่วงหน้าหรืองานที่ต้องทำในเดือนถัดไป ให้แบ่งเป็นหน้าปฏิธินของเดือนนั้นๆ เขียนตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้ายของเดือน อีกหน้าหนึ่งเอาไว้เขียน Bullet งานที่ต้องทำ คุณสามารถเขียนล่วงหน้าหลายๆ เดือนเลยก็ได้ นอกจากจะช่วยเตือนความจำแล้ว ยังช่วยวางแผนชีวิตได้อีกต่างหาก รู้ว่าจะว่างวันไหน เดือนไหนควรลาพักร้อน หรือตารางงานของเราแน่นไปหรือเปล่า รู้ว่าควรเพิ่มหรือลดงานตรงไหนได้บ้าง
2.2 Monthly Log บันทึกงานรายเดือน
ใช้หลักการเดียวกับ Future Log เพียงแต่เป็นการจดงานที่ต้องทำให้สำเร็จในเดือนนี้ จะเขียนทุกครั้งที่เริ่มเดือนใหม่ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าสิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้างเพื่อไม่ให้งานหลุดเดดไลน์
2.3 Rapid Logging จัดการงานด่วน
เอาไว้จดบันทึกงานเร่งด่วนของแต่ละวัน เพื่อเตือนตัวเองให้จัดลำดับความสำคัญของงาน เมื่อมีงานด่วนแทรกเข้ามา สั่งงานวันนี้และของานวันนี้ก็ต้องทำให้เสร็จก่อน ถึงแม้คุณจะไม่อยากทำก็ตาม
2.4 Daily Log งานประจำวัน
เขียนทุกครั้งเมื่อเริ่มต้นวันใหม่ จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำในวันนั้นที่อาจจะไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียว เป็นกิจกรรมอื่นๆ ก็ได้ ควรใส่สัญลักษณ์ลงไปในแต่ละ Bullet ด้วย จะได้รู้ว่าควรทำงานไหนก่อน รู้ตารางเวลาชีวิตชัดเจน
3. ให้ความสำคัญกับงานหลัก
สำหรับบางคนอาชีพเสริมอาจสร้างรายได้มากกว่างานประจำ และเติมเต็มความสุขมากกว่า แต่อย่าลืมว่าหน้าที่หลักของเราคืองานประจำ ที่มีหลักประกันและสวัสดิการต่างๆ มั่นคง จึงต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ เมื่อมีเวลาว่างค่อยใช้เวลานั้นทำงานอื่นให้เต็มที่ ไม่ใช่ทุ่มเทเทไปกับงานรอง ลางานหลักเพื่อไปหารายได้ส่วนตัว นอกจากจะส่งผลเสียกับตัวเองแล้ว ยังเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานด้วย
4. แบ่งเวลาพักผ่อน
การโหมทำงานหนักเพื่อรายได้ที่มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ถ้าต้องแลกมาด้วยความเครียด สุขภาพอ่อนแอก็คงไม่คุ้ม เงินที่ได้มาอาจต้องเสียไปกับการรักษาอาการเจ็บป่วย คุณควรแบ่งเวลาพักผ่อน ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวบ้าง หากงานเสริมของคุณสามารถทำที่บ้านได้ เช่น งานเขียนบทความออนไลน์ คุณอาจจะตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมสัก 30 นาที แล้วใช้เวลานั้นทำงานเสริม แล้วกลับมาทำต่อหลังเลิกงาน ควรกำหนดเวลาทำงานเสริมให้ชัดเจนไปเลย เมื่อเลยเวลาแล้วก็พอแค่นั้น หากฝืนทำต่อ นานวันเข้าอาจสะสมความเครียดโดยไม่รู้ตัว และเมื่อร่างกายอ่อนล้าย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีบริหารจัดการเวลาง่ายๆ หากนำไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณทำงานประจำควบคู่กับอาชีพเสริมได้อย่างลงตัวและมีความสุข แล้วยังภูมิใจในศักยภาพของตัวเองอีกด้วย
#คว้าโอกาสที่ใช่ให้ชีวิตได้เรียนรู้
#jobsdb
หางานได้ง่ายกว่าเดิมผ่าน application บนมือถือจาก jobsdb ทั้ง iOS และ Android โหลดเลย