Key Takeaway
- การเช็กเงินสะสมชราภาพประกันสังคมคือการตรวจสอบเงินออมสำหรับวัยเกษียณที่หักจากเงินเดือนของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องจ่ายเงินสมทบทุกเดือนเพื่อนำเข้ากองทุนประกันสังคม
- ผู้ที่จ่ายครบ 180 เดือนจะได้รับบำนาญ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย และเพิ่ม 1.5% ทุก 12 เดือนที่จ่ายเกิน หากเสียชีวิตใน 60 เดือน ทายาทจะได้รับบำเหน็จ สำหรับผู้รับบำนาญก่อนกฎกระทรวงใหม่ที่รับไม่ครบ 60 เดือน จะได้รับบำเหน็จจนครบกำหนด หรือ 10 เท่าของบำนาญ
- เงินบำเหน็จชราภาพแบ่งจ่ายตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบ โดยผู้ที่จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือนจะได้รับคืนเฉพาะเงินสมทบส่วนที่ตัวเองจ่าย ส่วนผู้ที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 180 เดือนจะได้รับทั้งเงินสมทบส่วนของตัวเอง นายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี
เมื่อเราใช้ชีวิตมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง ก็คงอยากปล่อยวางกับภาระที่หนักหนาไว้บ้าง สำหรับคนที่เป็นผู้ประกันตนตามประกันสังคมมาตรา 33 ประกันสังคมมาตรา 39 และประกันสังคมมาตรา 40 ที่อยากมีชีวิตช่วงเกษียณที่มีความสุข มาวางแผนเกษียณอายุให้มีความสุขในบั้นปลายชีวิตกัน! แล้วมาเช็กเงินสะสม เงินชราภาพประกันสังคมว่ามีเงื่อนไขอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ!
สวัสดิการ ‘เงินสะสมชราภาพประกันสังคม’ คืออะไร
เงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือนนั้น นอกจากจะให้สิทธิประโยชน์ในกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร เสียชีวิต และว่างงานแล้ว ยังรวมถึงสิทธิ์ในการรับเงินเกษียณเมื่ออายุครบ 55 ปี ในรูปแบบของเงินบำเหน็จ (เงินก้อน) หรือเงินบำนาญ (เงินรายเดือน)
เงินสะสมชราภาพประกันสังคม คือเงินที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40 สะสมไว้สำหรับวัยเกษียณ โดยจะหักจากเงินเดือนของผู้ประกันตนทุกเดือนไปเป็นส่วนหนึ่งของเงินสมทบเข้ากองทุน เมื่อถึงอายุที่กำหนดและสิ้นสุดสถานะการเป็นผู้ประกันตน ผู้ประกันตนสามารถเช็กและขอรับเงินนี้มาใช้จ่ายได้
เงินสมทบประกันสังคมแบ่งได้เป็น 3 ส่วน ดังนี้
- ส่วนดูแลเรื่องเจ็บป่วย/อุบัติเหตุ ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต (1.5% หรือ 225 บาท) เงินส่วนนี้ไม่สามารถเรียกคืนได้แม้ไม่ได้ใช้สิทธิ
- เงินออมกรณีสงเคราะห์บุตร/ชราภาพ (3% หรือ 450 บาท) จะได้คืนเมื่ออายุ 55 ปีในรูปแบบบำเหน็จหรือบำนาญ และครอบคลุมเงินสงเคราะห์บุตร
- ประกันการว่างงาน (0.5% หรือ 75 บาท) ใช้สำหรับกรณีว่างงาน แต่หากไม่ใช้สิทธิ์จะไม่ได้รับคืน
เงินสะสมชราภาพประกันสังคม ใครมีสิทธิ์บ้าง?
ผู้ประกันตนที่ต้องการขอรับสิทธิเงินประกันสังคมกรณีชราภาพ สามารถเช็กตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
ผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และ 40
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 ต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และแจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
- ผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และแจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน หรือเมื่อเป็นผู้ทุพพลภาพ
ทายาทของผู้ประกันตนที่เสียชีวิต
- บุตรหรือบุตรบุญธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย
- คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- บิดาหรือมารดาของผู้ประกันตนที่ยังมีชีวิตอยู่
ขั้นตอนวิธีเช็กเงินสะสมชราภาพประกันสังคมผ่านเว็บไซต์
วิธีเช็กเงินสะสมชราภาพประกันสังคมสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33,39 และ 40 สามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม https://www.sso.go.th/wpr/ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์และเลือกเมนู ‘ผู้ประกันตน’
- สำหรับผู้ใช้ใหม่ ให้เลือก ‘สมัครสมาชิก’
- เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน
- เมื่อเข้าสู่หน้าตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตน เลือก ‘ข้อมูลการส่งเงินสมทบ’
- ระบบจะแสดงข้อมูลงวดเงินสมทบ วันที่ชำระเงิน เปอร์เซ็นต์เงินสมทบ และจำนวนเงินที่นำส่ง
- สำหรับการตรวจสอบเงินชราภาพ เลือก ‘การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ’
- ระบบจะแสดงรายละเอียดเงินสมทบจากทุกฝ่าย ได้แก่ ผู้ประกันตน นายจ้าง รัฐ และยอดรวมรายปี
ขั้นตอนวิธีเช็กเงินสะสมชราภาพประกันสังคมผ่านแอปพลิเคชัน
วิธีเช็กยอดเงินสะสมชราภาพประกันสังคมสามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชันตามขั้นตอนดังนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SSO Connect ซึ่งรองรับทั้งระบบ iOS และ Android จาก App Store หรือ Google Play Store
- เข้าสู่ระบบโดยใช้เลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน
- สามารถเช็กข้อมูลต่างๆ ได้ เช่น โรงพยาบาลที่ใช้สิทธิประกันสังคม ยอดเงินสมทบชราภาพ สิทธิทำฟันประกันสังคม และข้อมูลสิทธิประโยชน์อื่นๆ
เอกสารที่ต้องเตรียมก่อนรับเงินสะสมชราภาพประกันสังคม
วิธียื่นขอรับเงินชราภาพประกันสังคม สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านหรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัด โดยต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (แบบ สปส. 2-01)
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์สำหรับรับโอนเงิน
สำหรับผู้ที่มีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน สามารถแจ้งขอรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ได้โดยไม่ต้องใช้สำเนาสมุดบัญชี อย่างไรก็ตาม บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ไม่สามารถใช้รับเงินได้
เงื่อนไขรับเงินสะสมบำนาญชราภาพประกันสังคม
เงื่อนไขการรับเงินบำนาญชราภาพตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2565 (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565) มีรายละเอียดดังนี้
- กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน (15 ปี): ได้รับบำนาญรายเดือนตลอดชีวิต คำนวณในอัตรา 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ไม่เกิน 15,000 บาท)
- กรณีจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน: ได้รับเพิ่มอีก 1.5% ต่อการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน
- กรณีผู้รับบำนาญเสียชีวิตภายใน 60 เดือน: ทายาทจะได้รับบำเหน็จเท่ากับบำนาญเดือนสุดท้ายคูณจำนวนเดือนที่เหลือถึง 60 เดือน
- กรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตนและเสียชีวิต: หากเคยรับบำนาญไม่เกิน 60 เดือน จะได้รับบำเหน็จเท่ากับบำนาญเดือนสุดท้ายคูณจำนวนเดือนที่เหลือถึง 60 เดือน
- กรณีผู้รับบำนาญก่อนกฎกระทรวงใหม่: ถ้ารับบำนาญไม่ครบ 60 เดือน จะได้รับบำเหน็จจนครบกำหนด ถ้าเหลือน้อยกว่า 10 เดือน จะได้รับบำเหน็จ 10 เท่าของบำนาญเดือนสุดท้าย
เงื่อนไขรับเงินสะสมบำเหน็จชราภาพประกันสังคม
เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จชราภาพจะจ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียว แบ่งเป็น 2 กรณีตามระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบ ดังนี้
- กรณีจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน: จะได้รับคืนเฉพาะเงินสมทบส่วนที่ผู้ประกันตนจ่ายเท่านั้น
- กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน: จะได้รับเงินสมทบส่วนของผู้ประกันตน เงินสมทบส่วนของนายจ้าง และผลประโยชน์ตอบแทนประจำปี
วิธีคำนวณเงินสะสมชราภาพประกันสังคม
วิธีคำนวณเงินสะสมบำนาญชราภาพประกันสังคมแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับบำนาญรายเดือน 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท)
- สูตรคำนวณ: 20 x 15,000 / 100 = 3,000 บาทต่อเดือน
กรณีจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน จะได้รับบำนาญเพิ่มขึ้น 1.5% ต่อการจ่ายเงินสมทบครบทุก 12 เดือน
- สูตรคำนวณ: [20 + (1.5 x จำนวนปีที่จ่ายเกิน 15 ปี)] x 15,000 / 100
ทั้งนี้ระบบประกันสังคมจะคำนวณยอดเงินให้อัตโนมัติเมื่อเช็กผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน แต่ผู้ประกันตนสามารถคำนวณได้ด้วยตัวเองตามสูตรข้างต้นเพื่อเช็กเพิ่มเติมได้
ตัวอย่างอัตราเงินบำนาญชราภาพที่คำนวณตามระยะเวลาการนำส่งเงินสมทบ (เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด 15,000 บาท)
สรุป
เงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายเข้ากองทุนทุกเดือนมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งสิทธิในกรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคราะห์บุตร เสียชีวิต และว่างงาน รวมถึงสิทธิรับเงินเกษียณในรูปแบบบำเหน็จหรือบำนาญเมื่ออายุครบ 55 ปี
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 เงินสะสมชราภาพจะถูกหักจากเงินเดือนทุกเดือนเพื่อสะสมไว้ใช้ยามเกษียณ โดยสามารถขอรับได้เมื่ออายุครบ 55 ปีและสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40 จะสามารถรับได้เมื่ออายุครบ 60 ปีหรือเมื่อทุพพลภาพ แต่ในกรณีผู้ประกันตนเสียชีวิต ทายาทที่มีสิทธิรับเงินได้แก่ บุตรหรือบุตรบุญธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย และบิดามารดาที่ยังมีชีวิตอยู่
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อยู่ในช่วงต้องเช็กเงินสะสมชราภาพประกันสังคมหรือยังไม่พร้อมเกษียณ มาหางานได้ที่ jobsdb เว็บไซต์ช่วยหางาน ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนการหางาน ให้สามารถเลือกงานได้ตามที่ต้องการเพียงไม่กี่คลิก!