หากว่าด้วยเรื่องของการเรียนรู้ เรามักจะพูดกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็ยังถือเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ ซึ่งนี่ถือเป็นการพัฒนาตนเองในการทํางานอย่างหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าคนทำงานทุกคนก็มักจะตั้งเป้าหมายในเส้นทางอาชีพให้กับตัวเองไว้อยู่แล้ว ว่าอยากจะพาตัวเองให้ไปถึงจุดใด แต่การจะไปถึงจุดหมายได้ เรื่องการพัฒนาตนเองในการทำงาน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และก็ไม่เรื่องยากเสมอไปที่ทุกคนจะพัฒนาตนเอง ดังนั้นมาดูกันดีกว่า ว่าวิธีง่าย ๆ ในการพัฒนาตนเองในการทํางานจะมีอะไรกันบ้าง
การทำงานในทุกๆ อาชีพล้วนต้องเริ่มจาก Passion และความชื่นชอบในอาชีพนั้นเสียก่อน ถึงจะสามารถทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี หากเราไม่มี Passion ต่อสิ่งที่ทำ ก็อาจทำให้เราผลิตผลงานออกได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพมากนัก จนอาจลุกลามไปสู่อาการ Burn Out ด้วย ซึ่งหากเรารักในอาชีพของตนเองจริงๆ อย่างไรเสียเราก็ต้องอยากพัฒนาตนเองในการทำงานแทบทั้งสิ้น เพื่อเป็นการต่อยอดในสายอาชีพไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เพิ่มพูนทักษะ ปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่เคยทำพลาด จวบจนรู้วิธีในการรับมือกับแก้ปัญหาที่จะเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงต้องมีการพัฒนาตนเองในการทำงาน
อีกหนึ่งหลักการสำคัญที่จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาตนเองในการทำงานคือเรื่องของ Career Cycle ซึ่งก็คือเรื่องของการวางแผนในการพัฒนาตนเองในการทำงานแบบ 5 สเต็ป เปรียบเสมือนการกำหนดเฟรมเวิร์คเพื่อพัฒนาการทำงาน มีประโยชน์ในการช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น รู้ว่าเราอยากไปถึงจุดไหนในสายอาชีพ รู้เป้าหมายว่าทำงานไปเพื่ออะไร หรือควรทำอย่างไรให้ตัวเองประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังช่วยทำให้เราเป็นคนที่แอคทีฟในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย
ก่อนที่จะไปมองหาสิ่งใหม่ๆ หรือโอกาสเพิ่มเติมให้แก่ตัวเอง บางครั้งโอกาสดีๆ ก็มักอยู่ในที่ทำงานปัจจุบันของคุณด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการพัฒนาตนเองในการทำงานในที่ปัจจุบันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอดีตเรามักจะมีความเชื่อกันว่าการเติบโตในที่ทำงานมักต้องอาศัยระบบอาวุโสเป็นหลัก โดยเฉพาะในออฟิศของคนไทยเราเอง แต่ในปัจจุบันเทรนด์การทำงานได้เปลี่ยนไป องค์กรส่วนใหญ่จึงได้มีการปรับตัวเอง และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถได้เติบโตและมีตำแหน่งสูงๆ ไม่แพ้คนอายุมากเลยทีเดียว ดังนั้นลองมาดู 6 วิธีง่ายๆ ในการพัฒนาตนเองในการทำงานกันดีกว่า
เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว เราก็ต้องเรียนรู้ในหน้าที่การงานของเราด้วย ต้องรู้ว่าตำแหน่งที่เราทำ มีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กรบ้าง แล้วจะช่วยพัฒนาให้กับองค์กรได้อย่างไร เพราะนี่ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการอยากพัฒนาตนเองในการทำงาน อีกทั้งหากเราไม่รู้คุณค่าของตัวเองและงานที่ทำ อาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสำคัญในองค์กร และมองไม่เห็นอนาคตที่เติบโตกับที่นี่ จนอาจทำให้เกิดอาการ Burn Out ไม่อยากมาทำงาน หรือทำงานไปวันๆ และนำพาไปสู่การลาออกในที่สุด
อย่าลืมว่าเรื่องของการปรับเลื่อนตำแหน่งในองค์กร เหล่าผู้บริหารก็มักจะมีคนที่ปักธงไว้ในใจแล้ว ว่าคนที่พวกเขาปักหมุดไว้ มีความสามารถมากพอที่จะผลักดันให้รับตำแหน่งสูงๆ ดังนั้นหากเราอยากแซงหน้าหรือโตเร็วกว่าคนอื่น เราก็ต้องกล้าที่จะออกจากกรอบ แสดงตัวตนและสร้างความโดดเด่นให้ผู้บริหารเห็นว่าเราก็มีศักยภาพไม่แพ้คนอื่น เช่น สร้างความโดดเด่นในแง่ของ ภาษา หรือมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการทำงานเพื่อตอบโจทย์ยุค Digital Tranformation เป็นต้น พูดง่ายๆ คือพยายามหาจุดเด่นหรือทักษะใหม่ๆ ที่คิดว่าคนอื่นไม่มี แต่ตัวเราเองสามารถทำได้นั่นเอง
ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหน การเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงาน ที่ต้องอาศัยการติดต่องานต่างๆ เป็นหลัก รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือ ดังนั้นหากเราทำตัวเป็นคนไนซ์กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมทีม หรือเพื่อนต่างแผนก ก็จะช่วยทำให้เราได้รับคะแนนบวกเสริมเข้าไปอีก เผื่อจะขอความช่วยเหลือใดๆ ในภายภาคหน้า คนเหล่านั้นก็คงพร้อมที่จะหยิบยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเต็มใจ
เมื่อเราทำหน้าที่หรือภาระงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเดดไลน์แล้ว หากมีเวลาเหลือก็ไม่ควรลังเลที่ช่วยเหลือคนอื่นในทุกครั้งที่มีโอกาส เขาก็จะได้เห็นว่าคุณเป็นคนมีน้ำใจและเสียสละ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงงานด้านอื่นๆ ขององค์กร เช่น กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ผู้บริหารก็อาจเล็งเห็นได้ว่าคุณก็มีความสามารถด้านอื่นๆ มี Employee Engagement ที่นอกเหนือจากขอบเขตงานของตัวเองด้วย
การทำงานไปวันๆ ให้ผ่านพ้นไป แล้วรอรับผลตอบแทนตอนสิ้นเดือน อาจไม่ได้ส่งผลด้านความก้าวหน้าสักเท่าไรนัก ดังนั้นเราจึงควรต้องตั้งใจทำงานทุกชิ้นออกมาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นโปรเจคต์สำคัญยิ่งต้องตั้งใจทำเป็นพิเศษ หรือหากมีโอกาสได้พรีเซนต์งานใดๆ ก็ควรตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ได้แสดงศักยภาพให้ทางผู้บริหารเห็น
เมื่อทำงานดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงเลยก็คือ อย่าทำให้ตัวเองมีเรื่องเสื่อมเสียจนเป็นที่นินทาของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเล็กๆ น้อย หรือเรื่องจุกจิก ก็ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาด เช่น การผิดกฎของบริษัท การทุจริตในหน้าที่ การแย่งผลงานคนอื่น การลอกงานคนอื่น หรือการร่วมวงนินทาคนอื่น เป็นต้น เพราะเรื่องเหล่านี้ก็อาจส่งผลให้เราได้รับคะแนนติดลบได้เช่นกัน
ทุกสายอาชีพมักจะมีสิ่งใหม่ๆ ให้เรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะของตนเองอยู่เสมอ ตามแต่ความถนัดและสกิลที่แต่ละอาชีพต้องใช้ ดังนั้นเราจะมาลองยกตัวอย่างคร่าวๆ ถึงทักษะต่างๆ ที่แต่ละสายอาชีพควรพัฒนาตนเอง
ความก้าวหน้าและการเติบโตในสายอาชีพถือเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญ ไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไร ทุกคนก็ล้วนวางแผนอยากให้ตัวเองเติบโตในสายงานนั้นอย่างมั่นคง แต่การจะไปสู่จุดหมายได้ ต้องอาศัยรากฐานที่มั่นคง นั่นคือเรื่องของการพัฒนาตนเองในการทำงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมทักษะ ประสบการณ์ และทัศนคติในการทำงานของเราอยู่เสมอ ซึ่งนี่แหละจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จได้แน่นอน ส่วนใครที่อยากลองเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับหน้าที่การงานของตัวเอง JobsDB ก็มีงานคุณภาพจากบริษัทชั้นนำ ให้คุณได้ค้นหากันอย่างจุใจ เลือกงานที่ชอบ บริษัทที่ใช่ แล้วกดสมัครได้เลย!