เนื่องจากผู้ประกันตนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ต้องยื่นเรื่องเบิกสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมภายในปีที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ ทำให้ในช่วงสิ้นปีของทุกปีมีผู้ประกันตนยื่นเรื่องเบิกสิทธิประโยชน์เป็นจำนวนมาก และอาจทำให้ผู้ประกันตนไม่ได้รับความสะดวกในการขอรับบริการ
ทางสำนักงานประกันสังคม จึงได้ชี้แจงว่า การยื่นเรื่องเบิกสิทธิประโยชน์กรณีทันตกรรมนั้นสามารถยื่นเรื่องขอเบิกได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยนับตั้งแต่วันที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่ระบุในใบรับรองแพทย์เป็นหลัก เช่น เมื่อผู้ประกันตนไปเข้ารับบริการถอนฟัน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2555 สามารถยื่นเรื่องขอเบิกได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยนับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2555 จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2556
อย่างนี้แล้วผู้ประกันตนก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะใช้สิทธิ์ไม่ทันภายในปีนี้อีกต่อไป เก็บหลักฐานในการเบิกค่าทำฟันอันได้แก่ 1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม (สปส.2-16) 2. ใบรับรองแพทย์ 3. ใบเสร็จรับเงิน เอาไว้ก่อน รอให้สำนักงานประกันสังคมคนไม่เยอะค่อยไปติดต่อดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลารอนาน แถมยังอาจเสียอารมณ์ หงุดหงิดใจเพราะการให้บริการไม่ทันใจอีกด้วย
หรือหากผู้ประกันตนไม่สะดวกไปยื่นเรื่องด้วยตนเองจะส่งหลักฐานไปทางไปรษณีย์ และให้โอนเงินเข้าบัญชีเลยก็ได้ โดยให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีเพิ่มเข้าไปด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมีสิทธิเบิกค่าทำฟันได้ เช่น ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน โดยไปรับบริการทันตกรรมที่สถานพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมที่ใดก็ได้ และนำใบเสร็จมาเบิกคืนได้เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินครั้งละ 300 บาท และไม่เกิน 600 บาท/ปี ในกรณีใส่ฟันเทียมฐานอะคริลิกชนิดถอดได้บางส่วน 1-5 ซี่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 1,300 บาท มากกว่า 5 ซี่ เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงในวงเงินไม่เกิน 1,500 บาท ในกรณีใส่ฟันเทียม ฐานอะคริลิกชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์และค่าฟันเทียมเท่าที่จ่ายจริง ในวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท และสูงสุดไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
ที่มา : สำนักงานประกันสังคม
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android