ช่วงนี้กระแสอีเบย์เริ่มมาแรงอีกครั้ง และคาดการณ์ว่าน่าจะมีคู่แข่งเพิ่มมาเยอะ ดังนั้น ถ้าเรารู้จักปรับตัวให้ทันเกมการแข่งขันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีไม่น้อย เราลองมาปรับ เพิ่มยอดขาย ของเราอย่างง่ายๆ ดีกว่า วิธีการนี้อาจไม่ต้องไปลดราคาแข่งกับใคร ไม่ต้องหาสินค้าใหม่หรือเลียนแบบสินค้าคนอื่นๆ ก็น่าจะทำให้อยู่รอดได้สบายๆ
- ใส่ตัวอักษรใน Title ให้เต็มพิกัดปกติแล้วตัวอักษรบน Title สำหรับประกาศขายสินค้านั้นทางอีเบย์ กำหนดให้ใส่ได้แค่ 55 ตัวเท่านั้น เกินจากนี้จะใส่ไม่ได้อีก เพราะเต็มโควต้า ใครที่ใช้ไม่คุ้มก็เท่ากับว่าเสียของเปล่าๆ ดังนั้น พยายามใส่ตัวอักษรให้มากที่สุด ยิ่งมากก็ยิ่งได้เปรียบ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพราะยังไงแล้ว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ทางอีเบย์ก็ต้องเก็บจากเรา (ผู้ขายสินค้า) ไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเติมให้ครบเสียดีกว่าปล่อยเว้นว่างไว้
- เช็คคำสะกดให้ถูกต้องหลายครั้งที่เราพบว่า Listing ของเราไม่โชว์หรือไม่แสดงผลลัพธ์ในการค้นเลย เป็นไปได้ว่าการสะกดคำใน Title และ Description ของเรานั้น บางทีเพี้ยนหรือสะกดผิดไป อาจจะวางตำแหน่งตัวอักษรผิดที่ ตกหล่นอักษรบางตัว หรือมือเร็วไปหน่อย ทำให้พิมพ์ตกๆ หล่นๆ ทางที่ดีก่อนลงประกาศก็เช็คคำสะกดเหล่านี้ให้ถูกต้อง จะได้ไม่เสียค่าธรรมเนียมการลงประกาศขายไปฟรีๆ
- สร้างเงื่อนไขให้โดนใจบ่อยครั้งที่ Listing ของเราวางเงื่อนไขที่ดุดัน รุนแรงและวางระเบียบไว้มากเกิน ถ้ามองในด้านผู้ซื้อ เมื่อเข้ามาอ่านดูแล้ว อาจจะไม่พอใจนิดๆ ก็ได้ ทางที่ดีควรผ่อนเงื่อนไขให้ตรงใจกันทั้งสองฝ่าย อย่าตึงหรือหลวมมากเกินไป การเขียนเพื่อบอกเงื่อนไขแข็งข้อมาก ฝ่ายผู้ซื้อ อาจจะหนีไปเสียดื้อๆ แต่ถ้าทำให้เขาพอใจ และรับได้กับบางสิ่งบางอย่างที่เราตั้งกฎเกณฑ์ไว้ ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ โบราณกล่าวไว้ว่า คำพูดดีๆ ไม่ต้องซื้อหา ปากหวานๆ หยอดวาจาสวยๆ แค่นี้ก็กินใจได้เยอะแล้วคะ
- ตั้งราคาไม่สูงหรือแพงมากไปบ่อยครั้งที่พบว่าสินค้าเราขายไม่ได้หรือไม่มีคนซื้อหรือมาประมูลเอาเสียเลย อาจเป็นไปได้ว่า ไม่มีการวิจัยหรือสำรวจตลาดโดยรวมเสียก่อนว่า ราคาที่อยู่ในตลาดนั้นแค่ไหนกันแน่ และควรจะเริ่มตั้งราคาประมูลที่เท่าไหร่ดี บางครั้งการตั้งไว้สูงจนเกินไป ก็ทำให้โอกาสในการขายของชิ้นนั้นยากมากขึ้นด้วย ดังนั้นการตั้งราคาก็เอาพอให้รับได้ ไม่สูงมากหรือต่ำเกินกว่าที่ควรจะเป็น หลายครั้งการตั้งราคาอาจจะบวกกำไรเอาไว้ราวๆ 100-200% (เผื่อต้นทุนในการลงประกาศขายและค่าธรรมเนียมอื่นๆ) แต่การตั้งราคากลางๆ ก็น่าจะสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
- ใส่รูปประกอบคำอธิบายคำพูดล้านคำไม่เท่ากับใช้ภาพเพียง 1 ภาพ มาอธิบาย วิธีการเหล่านี้ยังเอามาใช้ได้บน อีเบย์ นะคะ โดยเฉพาะกับ eBay Listing ถ้าใส่ภาพประกอบไปเสียหน่อยจะทำให้ง่ายในการอธิบายด้วยคำพูดยาวๆได้ดีมาก ภาพที่ใช้ก็ควรจะเป็นภาพที่เด่น ชัดเจนและตรง กับคำอธิบายพอสมควร ถ้าเป็นไปได้ใส่สัก 2-3 รูปก็ไม่เลว ทั้งภาพด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลังของตัวสินค้า ภาพที่เลือกใช้ไม่จำเป็น ต้องใหญ่โตเท่าฝาบ้าน เอาพอให้เห็นตำหนิ รูปพรรณหรือแบบของสินค้าอย่างคร่าวๆ ก็จะดีกว่าภาพใหญ่ๆแต่ไม่ได้เน้นรายละเอียดอะไรเลย
- ปรับ Listing ให้สวย สะดุดตาการปรับแต่ง Listing ให้สวย โดนใจและเข้ากับกลุ่มลูกค้าก็จะทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อหรือประมูลง่ายขึ้นนั่นเอง เช่น ขายสินค้าผู้หญิง ก็เน้นโทนสีออกชมพูหวาน หรือมีลูกเล่นเล็กน้อย ขายสินค้าผู้ชายก็เน้นโทนสีของ Listing ออกเข้ม ดุดันออกแนวสีน้ำตาล ดำหรือสี ที่แสดงให้ถึงความเข้มแข็ง หนักแน่น เป็นต้น
- เลือกเวลาลงรายการให้เหมาะสมบางครั้งการเลือกลงเวลาให้จบการประมูลก็เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ในการลง Listing พยายามให้ลงสินค้าประมูลในช่วงหัวค่ำ จะดีกว่า ให้จบการประมูลในช่วงที่คนส่วนใหญ่นั่งทำงานหรือไม่ได้มีเวลาจะมานั่งหน้าจอกันนานๆ เวลาที่ผู้ขายนิยมมากสุดก็คือช่วง 7 pm - 11 pm ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะพิจารณาปัจจัยและเหตุผลอื่นๆประกอบด้วยว่าสินค้าของเรานั้นเน้น Target กลุ่มไหน แม่บ้าน นักเรียน คนทำงาน อาจจะไม่ต้องจบประมูลในช่วงเวลาเหล่านี้เสมอไป
- ตั้งค่าขนส่งแบบสมน้ำสมเนื้อ อธิบายชัดเจนการขายสินค้าบน อีเบย์ อย่างหนึ่งที่ขาดเสียไม่ได้คือ การแจ้งราคาค่าขนส่งให้ลูกค้าทราบตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะเป็นการดี โดยเฉพาะ การส่งสินค้าจากไทยไปยังปลายทางต่างประเทศแล้ว ย่อมมีอัตราค่าขนส่งที่ไม่ ดังนั้น วิธีการคิดค่าขนส่งนั้นเราควรบวกต้นทุน ต่างๆ รวมเข้าไว้ด้วย เช่น ค่ากล่อง หีบห่อ เทปกาว ค่าน้ำมันรถ (จากบ้านไปที่ไปรษณีย์) เชือกมัด ป้ายชื่อ หมึกพิมพ์ ค่าแรงงาน สิ่งต่างๆเหล่านี้ควรรวมอยู่ในต้นทุนค่าขนส่งทั้งหมด ประการสำคัญคือ อย่าตั้งมากไปจนคนซื้อ ปฏิเสธไปเสียดื้อๆ ให้ดูจากคู่แข่ง หรือตลาดโดยรวมว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับใดจะดีที่สุด
- ใส่ Link เชื่อมโยงไปดูหน้าสินค้าอื่นเมื่อลูกค้าเข้ามาดูประกาศหรือ Listing นั้นแล้ว บางครั้งอาจไม่ใช่สินค้าที่เขาต้องการ ดังนั้น อีเบย์ จึงอนุญาตให้เราสร้าง Link เพื่อ เชื่อมโยงไปยังหน้าสินค้าอื่นที่เราขายบน อีเบย์ อีกได้
- ตอบคำถามให้ไว ทันใจผู้ซื้อบางครั้งเมื่อลูกค้าเห็นรายการประกาศสินค้าของเราแล้ว อาจจะยังไม่มีการตัดสินใจซื้อ ณ เวลานั้น เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ แน่นอนว่า การส่งคำถามจากผู้ซื้อเข้ามาหาเรา (ผ่านระบบ Ask Seller Question) ย่อมเป็นสัญญาณบอกเราได้อย่างดีว่า สินค้าชั้นนั้น น่าจะมีโอกาสขายได้บ้าง วิธีที่แนะนำคือ ตอบคำถามให้ไวและตรงประเด็นเอาไว้ก่อน พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ตัดสินใจซื้อมากขึ้น ซึ่งหลายๆครั้งพบว่า การตอบคำถามชัดเจนและแจ้งให้ทราบก่อนจบประมูลก็ช่วยเร่งรัดการตัดสินใจของลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน
สุดท้ายนี้ คำแนะนำทั้ง 10 ประการ อาจไม่จำเป็นต้องทำให้ได้หมดทุกข้อ ลองนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของท่าน ก็น่าจะเพิ่มยอดขายหรือกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ไม่มากก็น้อย
ที่มา : http://www.siampoint.com
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทะลุเป้าขาย ด้วย Sale Paradigm
สร้างความแตกต่างให้กับนักขาย