แนวทางพิชิตงานที่ใช่ ได้งานที่ชอบ

มีนักปราชญ์ชาวจีนชื่อ ซุนวู ได้กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามว่า "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" หากพูดในเชิงการตลาด ก็จะมีโมเดลคล้าย ๆ กันนี้ เรียกว่าโมเดล 3Cs หรือ การรู้จักเขา (Customer) รู้จักเรา (Company) และรู้จักคู่แข่ง (Competitor) ในครั้งนี้เราจะนำคำกล่าวนี้มาใช้ในการเตรียมรับมือการสมัครงาน เป็นการมองเกมส์รอบตัวแบบ 360 องศา เพื่อหาจุดที่จะพิชิตใจกรรมการบริษัทในฝัน ที่เราต้องการร่วมงานด้วยได้อย่างไม่ยากนัก โดยเริ่มจาก

1.การรู้จักเรา (Company) คือ การสำรวจตัวเราเองโดย

• ทราบคุณสมบัติของตน โดยดูจากสิ่งที่เราเรียนมา หรือตอบได้ว่าเรามีความรู้ความสามารถ หรือทักษะในด้านใดบ้าง อาจจะโดยสังเกตว่า มีสิ่งใดที่คุณทำได้ดีโดดเด่นกว่าเรื่องอื่น หรือสิ่งใดที่เราทำไปแล้วประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีบ้าง
• การรู้ใจตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร เพราะบางที “ตำแหน่งที่ใช่” คุณอาจจะไม่ชอบมันเลยก็ได้ “ตำแหน่งที่ใช่” คือ สายอาชีพที่ตรงกับสิ่งที่คุณเรียนมา หากคุณชอบในเนื้อหาที่เรียนมา 4 ปีในมหาวิทยาลัย และอยากมีชีวิตร่วมกับมันไปตลอด คุณคือผู้โชคดีที่ชอบในสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง แต่มีน้อยคนที่คิดเช่นนี้

สองข้อนี้ต้องพิจารณาควบคู่กันไป หากไม่ชอบในสิ่งที่ได้เรียนมา ก็ควรถามตัวเองว่าจริง ๆ เรา “ชอบ” งานแบบไหน ที่เมื่อตัดสินใจทำไปแล้วเราจะมีความสุขกับมันไปในระยะยาว แต่ต้องดูด้วยว่าทักษะไหนที่สามารถนำไปใช้กับงานนี้ได้บ้าง หาจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง ว่ามีสิ่งไหนที่คุณยังขาดสำหรับงานที่ชอบนี้ แล้วค่อยหาวิธีชดเชยแก้ไข ซึ่งเรื่องนี้นับว่าสำคัญมาก คุณจะได้รู้ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบแบบไหนกันแน่ที่ทำแล้วจะมีความสุขที่สุด เพราะคุณต้องรับผิดชอบกับมันไปอีกนาน

2.การรู้จักเขา (Customer) เรียนรู้บริษัทที่เราสนใจจะสมัคร โดยการเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเกี่ยวกับบริษัทที่เราสนใจ จนตอบคำถาม 5W+1H ได้ ดังนี้

• Who บริษัทนี้เค้าเป็นใคร เป็นบริษัทไทย หรือเทศ เป็นเอกชน หรือราชการ เป็นต้น
• What ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรบ้าง
• When เปิดมานานหรือยัง
• Where ที่ทำการอยู่ที่ไหน และมีสาขาใดบ้าง
• Why ดูว่าที่เค้าประสบความสำเร็จได้ เป็นเพราะอะไร (Key Success Factors)
• How บริษัทมีการทำงานในองค์กรเป็นอย่างไร และมีวิธีการคัดคนเข้าทำงานอย่างไร เป็นต้น

วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการหาข้อมูลเหล่านี้ คือ การหาจากทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ของบริษัทเอง หรือพูดคุยสอบถามจากเว็บบอร์ดต่าง ๆ หรือตามการประชาสัมพันธ์ของบริษัท เช่น บทสัมภาษณ์ตามนิตยสาร โทรทัศน์ หรือตามงานที่บริษัทนี้มีการไปออกบูธ เป็นต้น ยิ่งเป็นการดีหากได้พูดคุยกับพนักงานที่ทำงานกับบริษัทนี้โดยตรง หรืออาจผ่านทางสื่อออนไลน์ เช่น เว็บบล๊อค เว็บบอร์ด เป็นต้น เพื่อสอบถามเกี่ยวกับชีวิตการทำงานภายในบริษัทว่าเป็นอย่างไร เพราะบางที สิ่งที่เห็น อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เสมอไป ฉะนั้นหากมีข้อมูลในส่วนนี้มาก และเก็บได้หลายบริษัท ก็จะยิ่งทำให้ตัดสินใจเลือกบริษัทที่ต้องการทำงานได้ตรงใจมากขึ้น และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องไปสัมภาษณ์จริง ๆ กรรมการจะได้เห็นว่าคุณมีการเตรียมตัวมาดี และมีความตั้งใจที่จะทำงานนั้นจริง ซึ่งนั่นจะทำให้มีภาษีดีกว่าผู้สมัครรายอื่น ๆ ได้

3.การรู้จักคู่แข่ง (Competitors)

• ดูสถานการณ์การแข่งขัน ว่าเรามีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เช่น คู่แข่งเยอะเกินไปหรือไม่ มีการเปิดรับกี่อัตรา และมีคนสมัครไปแล้วกี่คน
• ดูว่าผู้สมัครรายอื่น ๆ เป็นอย่างไร อาจจะประเมินได้จากตอนที่กำลังนั่งรอสัมภาษณ์ ว่าแต่ละคนมีลักษณะประมาณไหน ลองพูดคุยกันระหว่างที่รอ เพื่อทราบทัศนคติของคนอื่น ๆ หรือข้อมูลที่อาจยังไม่รู้ จะได้รีบปรับการตอบคำถามให้ดีกว่าเขาได้ เป็นต้น

เหล่านี้เป็นเพียงแนวทางการเตรียมตัวในเบื้องต้นคร่าว ๆ เท่านั้น หากยิ่งเตรียมตัวดีเท่าใด ก็จะยิ่งได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้นเท่านั้น เชื่อว่ายังมีงานอีกมากมายรออยู่ ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกสมัครงานใน “ตำแหน่งที่ใช่” หรือ “ตำแหน่งที่ชอบ” ใช้สมองและหัวใจตรองดู คุณพอใจจะยืนอยู่ตรงจุดไหนมากกว่ากัน และควรตั้งความหวังในสิ่งที่เป็นไปได้ ที่สำคัญเลือกในสิ่งที่เป็น อย่าตัดสินใจเลือกงานตามคนอื่น แล้วจะได้งานที่เหมาะกับคุณจริง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังมองหางานทุกท่านค่ะ