ในแต่ละปี แนวโน้ม การทำงาน จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่จะดีขึ้นมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้อยู่กับสถานการณ์ในแต่ละปี จากการวิเคราะห์ของ Dan Schawbel นักเขียนของนิตยสาร Forbes ได้คาดการณ์แนวโน้มการทำงานในปี 2015 ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
ในปีที่ผ่านมา หลายบริษัทให้ความสำคัญกับคนทำ งาน Gen Y แต่ในปี 2015 ที่กำลังจะมาถึงนี้ นายจ้างจะให้ความสำคัญกับการจ้างงานนักศึกษาฝึกงาน ซึ่งเป็นคนในยุค Gen Z มากขึ้น (Gen Z คือ คนที่เกิดระหว่างปี 1994 - 2010) และยิ่งไปกว่านั้น บริษัทชื่อดังหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Deloitte, Microsoft, Rackspace, Lockheed Martin, Facebook, LinkedIn และ VMware ยินดีที่จะรับเด็กมัธยมเข้ามาฝึกงานมากขึ้นตามไปด้วย เหตุผลหนึ่งในนั้น น่าจะมาจาก ความต้องการในการลดปัญหาการขาดประสบการณ์ หรือทำงานไม่ตรงสายของคนทำงานหน้าใหม่ เท่ากับว่าบริษัทจะได้พนักงานที่พร้อมทำงานมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อคน Gen Z ได้เข้ามาทำงานในองค์กรมากขึ้น โอกาสของการได้เป็น หัวหน้างาน จะมาอยู่ที่คนที่เกิดในยุค Millenium หรือ Gen Y มากขึ้น และจะมีแนวโน้มมากขึ้นไปอีกในปี 2015 การสำรวจในปีที่ผ่านมาพบว่า คนทำงาน Gen Y ส่วนใหญ่มีตำแหน่งหน้าที่การงานในระดับสูง โดยอยู่ในตำแหน่ง Manager หรือผู้บริหารระดับสูงแล้ว และจะมีแนวโน้มสูงมากขึ้นไปเรื่อย ๆ และมีหลายผลสำรวจที่สรุปออกมาแล้วว่าคนทำงานที่ได้เป็นหัวหน้างานส่วนใหญ่ จะเป็นผู้บริหารอายุน้อยแทบทั้งสิ้น
ความฉลาดและการศึกษาดีอาจจะไม่เพียงพอสำหรับคนทำงานในปี 2015 เพราะสิ่งที่คนทำงานหลายคนต้องการให้มี คือ ความซื่อสัตย์ ทำงานอย่างโปร่งใส ไม่ปิดบัง แม้ว่าคนทำงานรุ่นใหม่จะต้องถูกปลูกฝังคุณสมบัตินี้ลงไป เพื่อให้เกิดการทำงานที่ดี อีกทั้ง ความซื่อสัตย์ เป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่ หัวหน้าที่ดี ควรมี ลูกน้องจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากข้อมูลทุกอย่างได้รับการเปิดเผย และรับรู้ว่าบริษัทได้ดำเนินงานไปในทิศทางใดบ้าง โปร่งใสหรือไม่
ที่ผ่านมา HR ของแต่ละบริษัท มักจะเกิดความกังวล เมื่อต้องพิจารณา เรซูเม่ ของผู้สมัครงาน แล้วพบว่าส่วนใหญ่คือคนทำงานที่จบมาไม่ตรงสาย หรือไม่ตรงกับความต้องการของ ตำแแหน่งงาน นายจ้างพูดแทบจะเป็นเสียงเดียวกันว่า ทักษะของผู้หางาน และตำแหน่งงานสวนทางกัน ในปีที่ผ่านมาพวกเขาหาผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการแทบไม่ได้เลย และสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าบริษัทจะได้คนหางานที่มีทักษะที่ตรงกับความต้องการได้มากพอ
แนวโน้มที่ผู้หางานจะ เลือกงาน มีมากขึ้น คนทำงานที่มีงานทำอยู่แล้ว หากไม่พอใจกับงานที่ทำอยู่ ก็จะมอง หางานใหม่ อยู่เรื่อยไป เทคโนโลยีการหางานที่มีความสะดวกมากขึ้น จะยิ่งช่วยเอื้ออำนวยให้ผู้หางานมองหางานที่เหมาะสมกับตัวเองง่ายขึ้น ทำให้ดูเหมือนว่าคนทำงานมักจะไม่พอใจกับงานที่ตัวเองทำอยู่ เพราะเขาจะเลือก และ เปลี่ยนงาน อยู่เรื่อยไป สิ่งที่นายจ้างในแต่ละองค์กรพอจะทำได้ คือ การผูกใจผู้หางานให้ทำงานอยู่กับบริษัทไปนาน ๆ ไม่ว่าจะด้วย การสร้างสวัสดิการที่ดีในการทำงาน หรือแม้กระทั่ง การสร้าง วัฒนธรรมการทำงาน ที่ดึงดูดใจ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้คนหางานโดยใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น การหางานออนไลน์ทางหน้าจอเดสก์ท็อปอาจจะไม่รองรับความต้องการได้มากพอ บริษัทหางาน หรือแม้แต่องค์กรที่ต้องการหาคนทำงาน ควรมีเว็บไซต์ที่เป็น Mobile-Friendly หรือ mobile application เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ใช้งานทางโทรศัพท์ที่จะค้นหาตำแหน่งงาน หรือสมัครงานได้ทันที
หลาย ๆ บริษัทจะใช้ Social Media เป็นเครื่องมือในการโปรโมทองค์กรของตัวเองมากขึ้น แม้ว่าเราจะเห็นการใช้สื่อนี้ในการแจ้งข่าวสารที่น่าสนใจมาสักพักแล้วก็ตาม แต่เราจะเห็นว่าแต่ละบริษัทจะใช้สื่อนี้กันอย่างแพร่หลายมากยิ่งในปี 2015 เพื่อให้ความโดดเด่น ที่แตกต่างกันของแต่ละองค์กร Social Media จะถูกนำมาใช้เผยแพร่วัฒนธรรมองค์กร ให้บุคคลภายนอกให้เห็นมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดให้ผู้หางานมาสมัครงานมากขึ้น ทำให้เว็บไซต์ของแต่ละบริษัทจะถูกลดความสำคัญลง
คนทำงานรุ่นเก่ากำลังจะถูกลดบทบาทลงไป อาจจะเป็นเพราะถึง วัยเกษียณ หรือถูกคนรุ่นใหม่เข้ามาแย่งชิงบทบาทสำคัญในการทำงานก็ตาม แม้ว่าคนทำงานรุ่นนี้ จะไม่ค่อยมีบทบาทแล้ว แต่องค์กรก็ต้องยึดถือเอาความต่อเนื่องในการทำงานเป็นสำคัญ การถ่ายทอดความรู้เป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกมองข้าม บริษัทจะให้ความสำคัญกับคนทำงานรุ่นเก่า ในการเป็นแหล่งความรู้ของแต่ละบริษัท เพื่อถ่ายทอดต่อไปให้คนทำงานรุ่นใหม่
บทบาทของผู้หญิงในแต่ละออฟฟิศมีให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงมีบทบาทมากขึ้นในปี 2015 ช่องว่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงและผู้ชายแทบจะไม่มีให้เห็น คนทำงานผู้หญิงนั้น ดูเหมือนว่าจะมีส่วนแบ่งที่มากกว่าผู้ชายเสียด้วยซ้ำ บทบาทในการทำงานของผู้หญิง จะมีมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน การศึกษาและสถานะทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราเห็นผู้หญิงในบทบาทหัวหน้างานมากขึ้น
10.มีการจ้างงานฟรีแลนซ์มากขึ้น
แต่ละบริษัทมีแนวโน้มที่จะจ้างงานคนที่ทำ Freelance มากขึ้น เพราะไม่ต้องจ่ายสวัสดิการ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เหมือนกับพนักงานประจำ เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้คนทำงานส่วนใหญ่ ตัดสินใจที่จะทำงานฟรีแลนซ์มากขึ้น เพราะการเข้าถึงงานค่อนข้างสะดวก จำนวนของคนทำงานฟรีแลนซ์จึงเพิ่มมากขึ้นทุกปี ๆ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ