สถาปนิก
ในหน้านี้
- การเป็นa สถาปนิกเป็นอย่างไร
- วิธีการเป็นสถาปนิก
- งานสถาปนิกล่าสุด
- ทักษะและประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับสถาปนิก
ตำแหน่งสถาปนิกคืออะไร?
หน้าที่หลักของสถาปนิก คือ การออกแบบอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างลงในแบบแปลน จากนั้นจึงค่อยทำการวางแผนการก่อสร้างในขั้นตอนต่อไป สถาปนิกนั้น สามารถออกแบบได้ทั้งอาคารใหม่ หรือจะเป็นการปรับปรุงแบบโครงสร้างของอาคารเก่า เพื่อทำการรักษาอาคารเหล่านั้นไว้ให้คงอยู่ได้ โดยอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่สถาปนิกเป็นผู้ออกแบบ อาจจะเป็นที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน อพาร์ตเมนต์ หรือจะเป็นสถานที่สำคัญ เช่น สนามกีฬาและตึกระฟ้าก็ได้
หน้าที่และความรับผิดชอบของ
- ออกแบบสิ่งปลูกสร้าง คำนวณและเขียนแบบแปลนลงในพิมพ์เขียว
- ประเมินความเป็นไปได้เรื่องการก่อสร้าง ให้สอดคล้องกับกฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายการก่อสร้าง และข้อกำหนดของกรมโยธาต่าง ๆ ไปจนถึงต้นทุนของการก่อสร้าง
- ดูแลขั้นตอนการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ
- จัดการขออนุญาตการก่อสร้างกับกรมโยธา
- นำเสนอการออกแบบ แผนการก่อสร้าง ต่อลูกค้า ผู้ร่วมงานและผู้มีส่วนร่วมในการก่อสร้างทั้งหมด
สถาปนิกต้องมีทักษะในด้านของการคำนวณ การจัดการโครงการ การสร้างโมเดล และมีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังจำเป็นต้องมีความรู้ด้านกฎหมายพื้นฐานเกี่ยวกับการก่อสร้าง กฏหมายควบคุมอาคารและข้อกำหนดเบื้องต้นของกรมโยธา และต้องเป็นผู้ให้คำแแนะนำกับวิศวกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง และนักออกแบบภายในอีกด้วย
อยากเป็นสถาปนิกต้องทำอย่างไร
การเป็นสถาปนิกต้องมีใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม สาขาสถาปัตยกรรมหลัก โดยสภาสถาปนิกจะมีการจัดการสอบทุกปี เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว จึงจะสามารถนำไปประกอบวิชาชีพได้ โดยใบอนุญาตจะมีอายุ 5 ปี หลังจากนั้นจะต้องคอยดูแลเรื่องการต่อใบอนุญาตไม่ให้หมดอายุ
- 1.
จบการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
- 2.
สอบใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม โดยมี 3 รายวิชาที่เป็นการสอบแบบข้อเขียนคือ ความรู้ทางสถาปัตยกรรม การปฏิบัติวิชาชีพสถาปัตยกรรม และทักษะในการวางผังและออกแบบ นอกจากการสอบแบบข้อเขียนแล้ว ยังต้องมีการสอบสัมภาษณ์และฝึกอบรมอื่น ๆ
- 3.
นอกจากการสอบใบวิชาชีพหลักแล้ว อาจจะเรียนรู้เรื่องสถาปัตยกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น สถาปัตยกรรมไทย การออกแบบอุตสาหกรรม การวางแผนภาคและผังเมือง สถาปัตยกรรมภายใน เป็นต้น
- 4.
สามารถเพิ่มเติมความรู้ได้โดยการเรียนต่อในระดับปริญญาโท
- 5.
เพิ่มทักษะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การเรียนโปรแกรม Autocad โปรแกรมการออกแบบอื่น ๆ หรือทักษะด้านการคำนวณขั้นสูง และทักษะการจัดการต่าง ๆ เป็นต้น